สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ตุรกี
| วันที่ 1 | สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย – สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย – สนามบินกาเซียนเทป ประเทศตุรเคีย – เมืองกาเซียนเทป – เมืองอดานา |
| วันที่ 2 | เมืองอดานา – สะพานหิน – มัสยิดซาบานจีเซ็นทรัล – เมืองคัปปาโดเกีย - เมืองเกอเรเม – พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม – เมืองใต้ดิน – โรงงานเซรามิก – โรงงานเครื่องประดับ – โรงงานทอพรม – เมืองใต้ดิน |
| วันที่ 3 | เมืองคัปปาโดเกีย - หุบเขานกพิราบ - หุบเขาอุชิซาร์ - เมืองคอนยา – ที่พักคาราวานซาราย – เมืองปามุคคาเล |
| วันที่ 4 | เมืองปามุคคาเล่ – ปราสาทปุยฝ้าย – เมืองโบราณเฮียราโพลิส – เมืองซานัคคาเล |
| วันที่ 5 | เมืองซานัคคาเล่ – ม้าไม้จำลองเมืองทรอยริมทะเล - โรงงานผลิตเครื่องหนัง – เมืองบูร์ซา – มัสยิดบูร์ซา – เมืองอิสตันบูล – จตุรัสทักซิมสแควร์ |
| วันที่ 6 | เมืองอิสตันบูล – สุเหร่าสีน้ำเงิน – ฮิปโปโดรม – วิหารฮาเกีย โซเฟีย – สไปซ์มาเก็ต – ร้านเตอร์กิช ดีไลท์ |
| วันที่ 7 | ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส – หอคอยกาลาตา – กาลาตาพอร์ต – สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย |
| วันที่ 8 | สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย |
![]() |
|||||
| วันเดินทาง |
ราคาทัวร์/ท่าน พักห้องละ 2-3 ท่าน |
ราคาทัวร์เด็ก/ท่าน (อายุไม่เกิน 11 ปี) |
ราคาทัวร์ไม่รวม ตั๋วเครื่องบิน |
ราคา ห้องพักเดี่ยว |
|
| 18-25 ม.ค. 69 | 43,990 | 43,990 | 28,990 | 9,500 | |
| 30 ม.ค.-06 ก.พ. 69 | 43,990 | 43,990 | 28,990 | 9,500 | |
| 20-27 ก.พ. 69 | 43,990 | 43,990 | 28,990 | 9,500 | |
|
27 ก.พ.-06 มี.ค.69 (วันมาฆบูชา) |
45,990 | 45,990 | 30,990 | 9,500 | |
| 06-13 มี.ค.69 | 44,990 | 44,990 | 29,990 | 9,500 | |
| 20-27 มี.ค.69 | 44,990 | 44,990 | 29,990 | 9,500 | |
|
31 มี.ค.-07 เม.ย.69 (วันจักรี) BKK-IST TK059 06.45 12.50 IST-GZT TK2228 15.30 17.15 IST-BKK TK058 16.00 05.15+1 |
45,990 | 45,990 | 30,990 | 9,500 | |
|
อัตราค่าบริการสำหรับ เด็กอายุไม่เกิน 2 ปี ณ วันเดินทางกลับ (Infant) ท่านละ 15,000 บาท *อัตรานี้ไม่รวมค่าทิปคนขับรถ มัคคุเทศก์ท้องถิ่น และหัวหน้าทัวร์ ท่านละ 3,000 บาท/ท่าน* **เนื่องจากตั๋วโดยสารเป็นตั๋วกรุ๊ป (หมู่คณะ) ไม่สามารถอัพเกรดที่นั่ง รีฟันด์ และเลื่อนการเดินทาง** |
|||||
โปรแกรมการเดินทางทัวร์ตุรกี
02.30 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน
05.50 ออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK059 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
12.30 เดินทางถึง สนามบินอิสตันบลู ประเทศตุรเคีย และรอต่อเครื่อง
15.35 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินกาเซียนเทป ประเทศตุรเคีย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK2228 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
17.20 เดินทางถึง สนามบินกาเซียนเทป ประเทศตุรเคีย หลังจากนั้นนำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) พร้อมออกเดินทางสู่ที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอดานา (Adana) หนึ่งในเมืองสำคัญทางตอนใต้ของประเทศตุรเคีย และเป็นศูนย์กลางการค้าและกสิกรรมที่สำคัญห่างจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนราว 35 กิโลเมตร เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 5 ของประเทศตุรเคีย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (1)
ที่พัก Divan Hotel, Adana ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย
05.50 ออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK059 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
12.30 เดินทางถึง สนามบินอิสตันบลู ประเทศตุรเคีย และรอต่อเครื่อง
15.35 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินกาเซียนเทป ประเทศตุรเคีย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK2228 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
17.20 เดินทางถึง สนามบินกาเซียนเทป ประเทศตุรเคีย หลังจากนั้นนำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) พร้อมออกเดินทางสู่ที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอดานา (Adana) หนึ่งในเมืองสำคัญทางตอนใต้ของประเทศตุรเคีย และเป็นศูนย์กลางการค้าและกสิกรรมที่สำคัญห่างจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนราว 35 กิโลเมตร เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 5 ของประเทศตุรเคีย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (1)
ที่พัก Divan Hotel, Adana ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)
นำท่านชม สะพานหิน (Stone Bridge) ก่อสร้างตั้งแต่ยุคโรมันราว 120-135 ปีก่อนคริสตกาล สะพานแห่งนี้เป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางลำเลียงสินค้าระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังดินแดนอนาโตเลียและเปอร์เซีย เป็นหนึ่งในสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่สามารถให้ยานยนต์แล่นผ่านได้ จวบจนยกเลิกให้เป็นทางเท้าเท่านั้นในปี ค.ศ.2007 เป็นต้นมา จากนั้นนำท่านเดินทางชม มัสยิดซาบานจีเซ็นทรัล Sabanci Central Mosque สร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ.1998 ใช้เวลา ก่อสร้างราว 10 ปี ปัจจุบันเป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศตุรเคีย ด้วยความสูงของโดม 54 เมตร และความสูงของหอคอย Minaret ที่ 99 เมตร บนเนื้อที่กว่า 52,600 ตารางเมตร สามารถให้ศาสนิกชนร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ราว 28,500 คน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่าง ทะเลดำกับภูเขา เทารุส เป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว เกิดจากลาวาที่พ่นออกมา และเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวย (คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ดินแดนแห่งปล่องไฟนางฟ้า” (Fairy Chimney) และในปัจจุบันนี้ก็ยังเลี้ยงม้ากันอยู่บริเวณนี้ เมืองคัปปาโดเกีย ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1985 ได้ขึ้นทะเบียนเมืองใต้ดินแห่งเมืองคัปปาโดเกียเป็นสถานที่มรดกโลกอีกด้วย
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (3)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกอเรเม (Goreme) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณของเมืองคัปปาโดเกียในตอนกลางของอานาโตเลียประเทศตุรเคีย เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโรมัน และเป็นสถานที่ที่ชาวคริสเตียนยุคแรกใช้ในการเป็นที่หลบหนีภัยจากการไล่ทำร้ายและสังหารก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นของจักรวรรดิ ที่จะเห็นได้จากคริสต์ศาสนสถานจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการทอพรม และการผลิตเครื่องเซรามิก ล้ำค่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นำท่านถ่ายภาพด้านหน้า พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (Open Air Museum of Goreme) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1985 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าเยี่ยมชม โรงงานเซรามิก (Ceramic Factory) โรงงานเครื่องประดับ (Jewelry Factory) และโรงงานทอพรม (Turkey’s handmade crafts) เพื่อให้ท่านได้ชมการสาธิตกรรมวิธีการผลิตสินค้าพื้นเมืองที่มีคุณภาพและชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้า

นำท่านเข้าชม เมืองใต้ดิน (Underground City) เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมัน ที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ ภายในมีโซนห้องต่างๆ อาทิ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องหมักไวน์ ห้องประชุม คอกสัตว์ โบสถ์ บ่อน้ำ บางห้องเป็นห้องโถงกว้างว่ากันว่าสามารถจุคนได้มากกว่า 30,000 คน และระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบา
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (4)
ที่พัก Concept Cave Suites, Cappadocia โรงแรมสไตล์ถ้ำ หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย
นำท่านชม สะพานหิน (Stone Bridge) ก่อสร้างตั้งแต่ยุคโรมันราว 120-135 ปีก่อนคริสตกาล สะพานแห่งนี้เป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางลำเลียงสินค้าระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังดินแดนอนาโตเลียและเปอร์เซีย เป็นหนึ่งในสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่สามารถให้ยานยนต์แล่นผ่านได้ จวบจนยกเลิกให้เป็นทางเท้าเท่านั้นในปี ค.ศ.2007 เป็นต้นมา จากนั้นนำท่านเดินทางชม มัสยิดซาบานจีเซ็นทรัล Sabanci Central Mosque สร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ.1998 ใช้เวลา ก่อสร้างราว 10 ปี ปัจจุบันเป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศตุรเคีย ด้วยความสูงของโดม 54 เมตร และความสูงของหอคอย Minaret ที่ 99 เมตร บนเนื้อที่กว่า 52,600 ตารางเมตร สามารถให้ศาสนิกชนร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ราว 28,500 คน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่าง ทะเลดำกับภูเขา เทารุส เป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว เกิดจากลาวาที่พ่นออกมา และเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวย (คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ดินแดนแห่งปล่องไฟนางฟ้า” (Fairy Chimney) และในปัจจุบันนี้ก็ยังเลี้ยงม้ากันอยู่บริเวณนี้ เมืองคัปปาโดเกีย ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1985 ได้ขึ้นทะเบียนเมืองใต้ดินแห่งเมืองคัปปาโดเกียเป็นสถานที่มรดกโลกอีกด้วย
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (3)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกอเรเม (Goreme) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณของเมืองคัปปาโดเกียในตอนกลางของอานาโตเลียประเทศตุรเคีย เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโรมัน และเป็นสถานที่ที่ชาวคริสเตียนยุคแรกใช้ในการเป็นที่หลบหนีภัยจากการไล่ทำร้ายและสังหารก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นของจักรวรรดิ ที่จะเห็นได้จากคริสต์ศาสนสถานจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการทอพรม และการผลิตเครื่องเซรามิก ล้ำค่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นำท่านถ่ายภาพด้านหน้า พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (Open Air Museum of Goreme) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1985 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าเยี่ยมชม โรงงานเซรามิก (Ceramic Factory) โรงงานเครื่องประดับ (Jewelry Factory) และโรงงานทอพรม (Turkey’s handmade crafts) เพื่อให้ท่านได้ชมการสาธิตกรรมวิธีการผลิตสินค้าพื้นเมืองที่มีคุณภาพและชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้า

นำท่านเข้าชม เมืองใต้ดิน (Underground City) เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมัน ที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ ภายในมีโซนห้องต่างๆ อาทิ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องหมักไวน์ ห้องประชุม คอกสัตว์ โบสถ์ บ่อน้ำ บางห้องเป็นห้องโถงกว้างว่ากันว่าสามารถจุคนได้มากกว่า 30,000 คน และระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (4)
ที่พัก Concept Cave Suites, Cappadocia โรงแรมสไตล์ถ้ำ หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)
สำหรับการขึ้นบอลลูนเป็นไฮไลท์ของเมืองคัปปาโดเกียและจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก ให้ท่านได้อิสระหากท่านใดสนใจขึ้นบอลลูน และกิจกรรมอื่นๆ รายละเอียดดังนี้ กิจกรรมเสริมพิเศษนี้ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ (Optional Tour)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) เป็นหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่ เนื่องจากสมัยก่อนชาวเมืองใช้นกพิราบมีหน้าที่เป็นผู้ส่งสารสำคัญในแถบละแวกนั้น และยังเป็นสัตว์เลี้ยงอีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาอุชิซาร์ (Uchisar Valley)ให้ท่านได้ถ่ายภาพด้านหน้า เป็นหุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาแห่งนี้มีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย อุชิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุชิซาร์ มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนยา (Konya) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก เป็นชื่อของอาณาจักรเก่าแก่ ซึ่งเคยมีอำนาจรุ่งเรืองสุดขีดในดินแดนอนาโตเลียของตุรเคียโบราณ เมื่อราวปี ค.ศ. 1087 – 1194 กินเนื้อที่กว่า 3,900,000 ตารางกิโลเมตร ระหว่างทางนำท่านแวะถ่ายภาพ ที่พักคาราวานซาราย (Caravanserai) เป็นสถานที่พักแรกของกองคาราวานในสมัยโบราณตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (6)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนไหลลงสู่หน้าผา จนเกิดผลึกกึ่งสถาปัตยกรรมสีขาวขึ้น
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (7)

ที่พัก Pam Thermal Hotel, Pamukkale ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย
สำหรับการขึ้นบอลลูนเป็นไฮไลท์ของเมืองคัปปาโดเกียและจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก ให้ท่านได้อิสระหากท่านใดสนใจขึ้นบอลลูน และกิจกรรมอื่นๆ รายละเอียดดังนี้ กิจกรรมเสริมพิเศษนี้ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ (Optional Tour)
- บอลลูนทัวร์ (Balloon Tour) สำหรับท่านที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย โปรแกรมเสริมพิเศษ จำเป็นต้องออกจากโรงแรมประมาณ 04.30 – 05.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับไปขึ้นบอลลูน เพื่อชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมไปขึ้นบอลลูน ประมาณ 30 – 45 นาที อยู่บนบอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการขึ้นบอลลูน ท่านละ ประมาณ 300-320 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล
- รถจี๊ปทัวร์ (Jeep Tour) สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 – 06.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับ เพื่อชมความสวยงามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดินในบริเวณที่รถเล็กสามารถตะลุยไปได้ ใช้เวลาอยู่บนรถจี๊ป ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊ปอยู่ที่ ท่านละ 100 – 120 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงโปรดเช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
- รถคลาสสิค (Classic Car) รถเปิดประทุน สูดอากาศ เย็น สดชื่น พร้อมชมบอลลูนสีสดใส วิวเมืองคัปปาโดเกีย สำหรับท่านใดที่สนใจถ่ายรูปกับรถคลาสสิค โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 – 06.00 น. ท่านละ 100 – 120 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงโปรดเช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
- เนื่องด้วยข้อกำหนดของเวลา ท่านจำเป็นต้องเลือกซื้อแพ็กเกจทัวร์เสริมอย่างใด อย่างหนึ่ง
- ท่านที่เมารถ กรุณาทานยาแก้เมารถล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งก่อนออกเดินทาง และควรแจ้งให้หัวหน้าทัวร์ทราบตั้งแต่ก่อนวันเดินทาง (ตั้งแต่อยู่ประเทศไทย เพื่อเตรียมยาแก้เมารถจากประเทศไป)
- กิจกรรมนี้ ไม่อนุญาตให้ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรง, ตั้งครรภ์ หรือ เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี เข้าร่วมโดยเด็ดขาด กรณีเกิดความเสียหายไม่ว่ากรณีใดๆ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการรับผิดชอบทุกกรณี
- สำหรับท่านที่ไม่ร่วมในโปรแกรมเสริมพิเศษ ท่านจำเป็นต้องพักผ่อนรอคณะอยู่ที่โรงแรมที่พัก

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) เป็นหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่ เนื่องจากสมัยก่อนชาวเมืองใช้นกพิราบมีหน้าที่เป็นผู้ส่งสารสำคัญในแถบละแวกนั้น และยังเป็นสัตว์เลี้ยงอีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาอุชิซาร์ (Uchisar Valley)ให้ท่านได้ถ่ายภาพด้านหน้า เป็นหุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาแห่งนี้มีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย อุชิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุชิซาร์ มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนยา (Konya) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก เป็นชื่อของอาณาจักรเก่าแก่ ซึ่งเคยมีอำนาจรุ่งเรืองสุดขีดในดินแดนอนาโตเลียของตุรเคียโบราณ เมื่อราวปี ค.ศ. 1087 – 1194 กินเนื้อที่กว่า 3,900,000 ตารางกิโลเมตร ระหว่างทางนำท่านแวะถ่ายภาพ ที่พักคาราวานซาราย (Caravanserai) เป็นสถานที่พักแรกของกองคาราวานในสมัยโบราณตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (6)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนไหลลงสู่หน้าผา จนเกิดผลึกกึ่งสถาปัตยกรรมสีขาวขึ้น
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (7)

ที่พัก Pam Thermal Hotel, Pamukkale ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)
นำท่านเข้าชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) ปามุคแปลว่าฝ้าย คาเล่แปลว่าปราสาท เป็นน้ำตกสีขาวโพลน ลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้น ส่งประกายสะท้อนกับแสงแดดระยิบระยับ บนหน้าผา โตรกเขา สีขาวบริสุทธิ์ของแร่แคลเซียมที่เกาะตัวอยู่บนเนินเขา ลดหลั่นลงมาดังป้อมปราการเกิดจากน้ำพุร้อนที่มีแร่แคลเซียมคาร์บอเนตผสมอยู่เป็นจำนวนมากในธรรมชาติ เมื่อน้ำแร่ไหลไปตามพื้นหิน แคลเซียมจะเกาะตัวติดอยู่กับหิน ส่วนคาร์บอนเนตจะแปรสภาพกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์แยกตัวไป นานๆ เข้าแคลเซียมขาวจะเกาะเต็มพื้นหินบนภูเขาจนมองไม่เห็นพื้นหิน พื้นดิน รูปร่างจะเปลี่ยนไปตามรูปร่างของพื้นหินที่เกาะอยู่เป็นรูปทรงต่างๆ แปลกตา แลดูเหมือนกับแอ่งน้ำบนสวรรค์ หรือฉากในดินแดนแห่งเทพนิยาย จนทำให้ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 ภายในบริเวณเดียวกันนี้ยังเป็น เมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis) เป็นเมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อน ซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคเมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลง เหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไปบางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร อาทิ โรงละคร แอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณเฮียราโพลิส ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1988
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (9)
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล (Canakkale) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เดิมมีชื่อว่า โบกาซี่ (Bogazi) หรือ เฮลเลสปอนด์ (Hellespont) มีความยาว 65 กิโลเมตร ส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 1.3 กิโลเมตรเนื่องจากตั้งอยู่บนจุดแคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดะเนลส์ ใกล้กับ แหลมเกลิโบลูของกรีซ บนฝั่งของ 2 ทะเลคือ ทะเลมาร์มารา และ ทะเลอีเจียนซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาราตัดกับทะเลอีเจียน เป็นที่ตั้งของเมืองทรอย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (10)

ที่พัก KOLIN HOTEL, Canakkale ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย
นำท่านเข้าชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) ปามุคแปลว่าฝ้าย คาเล่แปลว่าปราสาท เป็นน้ำตกสีขาวโพลน ลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้น ส่งประกายสะท้อนกับแสงแดดระยิบระยับ บนหน้าผา โตรกเขา สีขาวบริสุทธิ์ของแร่แคลเซียมที่เกาะตัวอยู่บนเนินเขา ลดหลั่นลงมาดังป้อมปราการเกิดจากน้ำพุร้อนที่มีแร่แคลเซียมคาร์บอเนตผสมอยู่เป็นจำนวนมากในธรรมชาติ เมื่อน้ำแร่ไหลไปตามพื้นหิน แคลเซียมจะเกาะตัวติดอยู่กับหิน ส่วนคาร์บอนเนตจะแปรสภาพกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์แยกตัวไป นานๆ เข้าแคลเซียมขาวจะเกาะเต็มพื้นหินบนภูเขาจนมองไม่เห็นพื้นหิน พื้นดิน รูปร่างจะเปลี่ยนไปตามรูปร่างของพื้นหินที่เกาะอยู่เป็นรูปทรงต่างๆ แปลกตา แลดูเหมือนกับแอ่งน้ำบนสวรรค์ หรือฉากในดินแดนแห่งเทพนิยาย จนทำให้ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 ภายในบริเวณเดียวกันนี้ยังเป็น เมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis) เป็นเมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อน ซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคเมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลง เหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไปบางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร อาทิ โรงละคร แอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณเฮียราโพลิส ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1988
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (9)
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล (Canakkale) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เดิมมีชื่อว่า โบกาซี่ (Bogazi) หรือ เฮลเลสปอนด์ (Hellespont) มีความยาว 65 กิโลเมตร ส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 1.3 กิโลเมตรเนื่องจากตั้งอยู่บนจุดแคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดะเนลส์ ใกล้กับ แหลมเกลิโบลูของกรีซ บนฝั่งของ 2 ทะเลคือ ทะเลมาร์มารา และ ทะเลอีเจียนซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาราตัดกับทะเลอีเจียน เป็นที่ตั้งของเมืองทรอย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (10)

ที่พัก KOLIN HOTEL, Canakkale ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (11)
นำท่านชมและถ่ายภาพ ม้าไม้จำลองเมืองทรอยริมทะเล (Trojan Statue/Hollywood Horse) เป็นม้าไม้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดจาก มหากาพย์ภาพยนตร์ฮอลิวูดเรื่อง ทรอย (Troy) ในปี 2004 มีแบรด พิตต์ แสดงชื่อดังระดับโลกเป็นนักแสดงนำ ทางทีมงานได้จำลองม้าไม้ขนาดใหญ่สีดำ เพื่อใช้ดำเนินเรื่องและเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของเรื่องทรอย หลังจากนั้นทางทีมงานจึงมอบม้าไม้จำลองตัวนี้ให้กับทางการตุรเคีย เพื่อเป็นเกียรติและสร้างชื่อเสียงให้กับเมืองชานัคคาเลอีกด้วย
นำท่านชม โรงงานผลิตเครื่องหนัง (Leather Factory) ซึ่งประเทศตุรเคียเป็นประเทศที่มีฐานการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งยังผลิตเสื้อหนังให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี อาทิ Versace, Prada, Michael Kors อีกด้วย อิสระให้ท่านเลือกชมผลิตภัณฑ์จาก เครื่องหนังและสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบูร์ซา (Bursa) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ตั้งอยู่บนยอดเขาอุลูดัค (Uludag) ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรเคีย โดยที่นี่ถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งรีสอร์ทและสกีเนื่องจากเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย นอกจากนี้บูร์ซายังเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอาณาจักรออตโตมันบนคาบสมุทรอนาโตเลียในอดีต และยังเป็นเมืองที่ได้รับการยอมรับจากชาวตุรเคียและนักชิมทั่วไปว่าเป็นเมืองแห่งกะบับที่เป็นอาหารพื้นเมืองที่อร่อยที่สุดในประเทศอีกด้วย
นำท่านชมความงามของ มัสยิดบูร์ซา (Bursa Grand Mosque) ภายในจะพบกับผลงานอันละเอียดอ่อน และประณีตของงานกระเบื้องประดับที่มีสีสันลวดลายที่ละเอียด และซับซ้อนอย่างพิสดารทั้งลายรูปวงกลม รูปดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลามและรูปเรขาคณิต ให้ท่านได้ชมความสวยงามของตัวเมืองที่ในอดีตกษัตริย์ที่เคยปกครองอาณาจักรออตโตมัน ได้ใช้เมืองนี้เป็นที่ฝังศพ และนอกจากนั้นยังถูกตกแต่งให้เป็นสวนที่สวยงาม ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ที่เขียวชอุ่มเป็นจำนวนมากเที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (12) พิเศษ...เคบับตุรเคียต้นตำรับ!!
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุดของประเทศตุรเคีย มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาล มีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) จากนั้นอิสระช้อปปิ้งที่ จัตุรัสทักซิมสแควร์ (Taksim Square) ถนนสายนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองอิสตันบูล มีร้านค้ามากมาย ตั้งแต่ของที่ระลึก, ร้านอาหารพื้นเมือง และยังมีแทรมป์โบราณ (Tram) เรียกได้ว่าที่แห่งนี้เป็นจุดนัดพบยอดนิยมของชาวเมืองอิสตันบูล
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (13)
ที่พัก Wish More Hotel, Istanbul ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (14)
นำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) หรือชื่อเดิมสุเหร่าสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 (Sultan Ahmed Mosque) สุเหร่านี้สร้างในปี ค.ศ. 1609 และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1616 (1 ปีก่อนสุลต่านอาห์เหม็ดสิ้นพระชนม์ด้วยอายุเพียง 27 พรรษา) มีหอเรียกสวดอยู่ 6 หอ เป็นหอคอยสูงให้ผู้นำศาสนาขึ้นไปตะโกนร้องเรียกจากยอดเพื่อให้ผู้คนเข้ามาสวดมนต์ตามเวลาในสุเหร่า สุเหร่าสีน้ำเงินภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิค ลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่น กุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ภายในมีที่ให้สุลต่านและนางในฮาเร็มทำละหมาดและสวดมนต์โดยเฉพาะ มีหน้าต่าง 260 บาน
นำท่านถ่ายภาพกับ ฮิปโปโดรม (Hippodrome) คือสิ่งก่อสร้างจากสมัยกรีกซึ่งใช้เป็นสนามแข่งม้า และการแข่งขันขับรถศึก (Chariot Racing) หมายถึงการแข่งขันม้าใจกลางเมืองมอสโคว์ (Central Moscow Hippodrome) สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 203 – 330 แต่ปัจจุบันเหลือเพียง เสา 3 ต้น คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) บูรณะเมื่อศตวรรษที่ 10 เสาต้นที่ 2 คือ เสางู ที่เชื่อว่าสร้างก่อนคริสตกาลมา 479 ปี เป็นรูปสลักงู 3 ตัวพันกัน จากเมืองเดลฟิ (Delphi) แล้วถูกขนย้ายมาตั้งที่นี่เมื่อ ศตวรรษที่ 4 ปัจจุบันเหลือเพียงครึ่งต้น และเสาต้นสุดท้ายคือ เสาอียิปต์ หรือเสาโอเบลิสก์ (Obelisk of Thutmose) สร้างในช่วงก่อนคริสตกาลประมาณ 390 ปี

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอก วิหารฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia) หรือ วิหารเซนต์โซเฟีย (St.Sophia) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางเป็นโบสถ์คาทอลิก สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโดม เสาในโบสถ์เป็นหินก้อน หลังทางการได้ตกลงให้วิหารฮาเกีย โซเฟีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ความเก่าขลังอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะโดมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกซึ่งมีพื้นที่โล่งภายในใหญ่ที่สุด ก่อสร้างด้วยการใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้นแทนการใช้เสาค้ำยันทั่วไป

เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (15)
นำท่านช้อปปิ้งที่ สไปซ์มาเก็ต (Spice Market) หรือ ตลาดอียิปต์ (Egyptian Bazaar) เป็นตลาดเครื่องเทศตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา ที่นี่ถือเป็นตลาดในร่มและเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660 โดยเป็นส่วนหนึ่งของมัสยิดใหม่ ภายในตลาดยังมีสินค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อ อาทิ อาหาร, เครื่องเทศ, ขนมหวานของตุรเคีย, เครื่องเพชรพลอย, ของที่ระลึก, ผลไม้แห้ง และเครื่องประดับต่างๆ อีกด้วย นำท่านเดินทางสู่ ร้านเตอร์กิช ดีไลท์ (Turkish Delight Shop) คือขนมหวานขึ้นชื่อของประเทศตุรเคีย ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกกันว่าโลคุม (Lokum) เป็นขนมหวานทรงลูกเต๋าที่ประกอบขึ้นจากแป้งและน้ำตาล มักจะมีอัลมอนด์ วอลนัท ถั่วพิสตาชิโอ และแมคคาเดเมียผสมเข้าไปด้วย โดยส่วนมาก หน้าตาจะมีสีชมพูเข้ม แต่ก็ดูจางลงไปทันทีเมื่อเสิร์ฟกับน้ำตาลไอซิ่งที่คลุกเคล้าประหนึ่งแป้งฝุ่น มีรสหวาน สอดแทรกด้วยความกรอบและมันของ ถั่วคุณภาพดี ชาวตุรกีนิยมทานคู่กับชาร้อน หรือ ชากลิ่นแอปเปิ้ล
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (16)
ที่พัก Wish More Hotel, Istanbul ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย
นำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) หรือชื่อเดิมสุเหร่าสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 (Sultan Ahmed Mosque) สุเหร่านี้สร้างในปี ค.ศ. 1609 และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1616 (1 ปีก่อนสุลต่านอาห์เหม็ดสิ้นพระชนม์ด้วยอายุเพียง 27 พรรษา) มีหอเรียกสวดอยู่ 6 หอ เป็นหอคอยสูงให้ผู้นำศาสนาขึ้นไปตะโกนร้องเรียกจากยอดเพื่อให้ผู้คนเข้ามาสวดมนต์ตามเวลาในสุเหร่า สุเหร่าสีน้ำเงินภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิค ลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่น กุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ภายในมีที่ให้สุลต่านและนางในฮาเร็มทำละหมาดและสวดมนต์โดยเฉพาะ มีหน้าต่าง 260 บาน
นำท่านถ่ายภาพกับ ฮิปโปโดรม (Hippodrome) คือสิ่งก่อสร้างจากสมัยกรีกซึ่งใช้เป็นสนามแข่งม้า และการแข่งขันขับรถศึก (Chariot Racing) หมายถึงการแข่งขันม้าใจกลางเมืองมอสโคว์ (Central Moscow Hippodrome) สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 203 – 330 แต่ปัจจุบันเหลือเพียง เสา 3 ต้น คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) บูรณะเมื่อศตวรรษที่ 10 เสาต้นที่ 2 คือ เสางู ที่เชื่อว่าสร้างก่อนคริสตกาลมา 479 ปี เป็นรูปสลักงู 3 ตัวพันกัน จากเมืองเดลฟิ (Delphi) แล้วถูกขนย้ายมาตั้งที่นี่เมื่อ ศตวรรษที่ 4 ปัจจุบันเหลือเพียงครึ่งต้น และเสาต้นสุดท้ายคือ เสาอียิปต์ หรือเสาโอเบลิสก์ (Obelisk of Thutmose) สร้างในช่วงก่อนคริสตกาลประมาณ 390 ปี

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอก วิหารฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia) หรือ วิหารเซนต์โซเฟีย (St.Sophia) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางเป็นโบสถ์คาทอลิก สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโดม เสาในโบสถ์เป็นหินก้อน หลังทางการได้ตกลงให้วิหารฮาเกีย โซเฟีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ความเก่าขลังอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะโดมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกซึ่งมีพื้นที่โล่งภายในใหญ่ที่สุด ก่อสร้างด้วยการใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้นแทนการใช้เสาค้ำยันทั่วไป

เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (15)
นำท่านช้อปปิ้งที่ สไปซ์มาเก็ต (Spice Market) หรือ ตลาดอียิปต์ (Egyptian Bazaar) เป็นตลาดเครื่องเทศตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา ที่นี่ถือเป็นตลาดในร่มและเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660 โดยเป็นส่วนหนึ่งของมัสยิดใหม่ ภายในตลาดยังมีสินค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อ อาทิ อาหาร, เครื่องเทศ, ขนมหวานของตุรเคีย, เครื่องเพชรพลอย, ของที่ระลึก, ผลไม้แห้ง และเครื่องประดับต่างๆ อีกด้วย นำท่านเดินทางสู่ ร้านเตอร์กิช ดีไลท์ (Turkish Delight Shop) คือขนมหวานขึ้นชื่อของประเทศตุรเคีย ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกกันว่าโลคุม (Lokum) เป็นขนมหวานทรงลูกเต๋าที่ประกอบขึ้นจากแป้งและน้ำตาล มักจะมีอัลมอนด์ วอลนัท ถั่วพิสตาชิโอ และแมคคาเดเมียผสมเข้าไปด้วย โดยส่วนมาก หน้าตาจะมีสีชมพูเข้ม แต่ก็ดูจางลงไปทันทีเมื่อเสิร์ฟกับน้ำตาลไอซิ่งที่คลุกเคล้าประหนึ่งแป้งฝุ่น มีรสหวาน สอดแทรกด้วยความกรอบและมันของ ถั่วคุณภาพดี ชาวตุรกีนิยมทานคู่กับชาร้อน หรือ ชากลิ่นแอปเปิ้ล
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (16)
ที่พัก Wish More Hotel, Istanbul ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (17)
นำท่าน ล่องเรือชมความสวยงามของช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) กับทะเลมาร์มารา (Sea of Marmara) โดยมีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตรความกว้าง เริ่มตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ช่องแคบนี้ถือว่าเป็นจุดบรรจบกันของสุดขอบทวีปยุโรปและสุดขอบทวีปเอเชีย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนีย์ภาพอันสวยงามของริมฝั่งช่องแคบแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาห์เชหรือบ้านเรือสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐีแห่งประเทศตุรเคีย
นำท่านถ่ายภาพด้านหน้า หอคอยกาลาตา (Galata Tower) หอคอยหินสไตล์โรมัน แบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ ตัวตึกประกอบด้วย 9 ชั้น มีรูปทรงกระบอก และมีหลังคาเป็นทรงกรวย อีกหนึ่งสัญลักษณ์เมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1348 เพื่อไว้เป็นหอสังเกตการณ์ป้องกันข้าศึกจากทางทะเลปัจจุบันชั้นบนเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมทัศนียภาพของเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กาลาตาพอร์ต (Galataport) ศูนย์การค้า, ศูนย์กลางศิลปะและวัฒนธรรมแห่งใหม่ของเมืองอิสตันบูล ทั้งนี้ยังเป็นท่าเรือสำราญระดับโลกและเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการล่องเรือชั้นนำในเส้นทางเดินเรือยุโรปอีกด้วย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าตั้งแต่ สินค้า D.I.Y สินค้าท้องถิ่น จนถึงร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆ ทั้งนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม คาเฟ่ หรือให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศมุมถ่ายภาพโมเดิลต่างๆ ตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย
15.30 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK058 (บริการอาหารและเครื่องดื่ม
บนเครื่อง)
นำท่าน ล่องเรือชมความสวยงามของช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) กับทะเลมาร์มารา (Sea of Marmara) โดยมีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตรความกว้าง เริ่มตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ช่องแคบนี้ถือว่าเป็นจุดบรรจบกันของสุดขอบทวีปยุโรปและสุดขอบทวีปเอเชีย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนีย์ภาพอันสวยงามของริมฝั่งช่องแคบแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาห์เชหรือบ้านเรือสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐีแห่งประเทศตุรเคีย นำท่านถ่ายภาพด้านหน้า หอคอยกาลาตา (Galata Tower) หอคอยหินสไตล์โรมัน แบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ ตัวตึกประกอบด้วย 9 ชั้น มีรูปทรงกระบอก และมีหลังคาเป็นทรงกรวย อีกหนึ่งสัญลักษณ์เมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1348 เพื่อไว้เป็นหอสังเกตการณ์ป้องกันข้าศึกจากทางทะเลปัจจุบันชั้นบนเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมทัศนียภาพของเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กาลาตาพอร์ต (Galataport) ศูนย์การค้า, ศูนย์กลางศิลปะและวัฒนธรรมแห่งใหม่ของเมืองอิสตันบูล ทั้งนี้ยังเป็นท่าเรือสำราญระดับโลกและเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการล่องเรือชั้นนำในเส้นทางเดินเรือยุโรปอีกด้วย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าตั้งแต่ สินค้า D.I.Y สินค้าท้องถิ่น จนถึงร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆ ทั้งนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม คาเฟ่ หรือให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศมุมถ่ายภาพโมเดิลต่างๆ ตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย
15.30 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK058 (บริการอาหารและเครื่องดื่ม
บนเครื่อง)
04.20 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ


**เนื่องจากตั๋วโดยสารเป็นตั๋วกรุ๊ป (หมู่คณะ) ไม่สามารถอัพเกรดที่นั่ง รีฟันด์ และเลื่อนการเดินทาง**

